April 29, 2020
The Monk Studios สตูดิโอแอนิเมชั่น และ VFX ฝีมือคนไทย ที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลกกว่า 11 รายการ มีหลายผลงานเป็นที่รู้จักอาทิ ทองหล่อ หนนึ่งในตอนจาก คุณทองแดง The Inspiration, Final Fantasy XV Kingsglaive, เคว้ง, Fast & Furios : Spy Racers, Kung Fu Panda : The Paws of Destiny Season 1 และอีกมากมาย นักศึกษาจะได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำแอนิเมชั่นระดับมืออาชีพจาก Juck Somsaman ผู้ก่อตั้ง ซึ่งคร่ำหวอดในวงการ VFX, CGI และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับ Hi-End ของสหรัฐอเมริกา มานานกว่า 25 ปี
เชื่อว่าหลายคนอาจต้องใช้เวลานั่งนึกอยู่นาน เพราะอุตสาหกรรมบันเทิงบ้านเรายังไม่ค่อยมีอะไรใหม่ๆ เมื่อเทียบกับระดับโลก หรือแม้กระทั่งในเอเชียด้วยกันเอง อย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นทั้ง 2 ประเทศที่แวดวงบันเทิงของเขาชัดเจนและล้ำหน้าไปไกลมากแล้ว
เมื่อหันกลับมาดูที่ประเทศเรา สิ่งที่ทุกคนน่าจะคุ้นตาที่สุดก็น่าจะเป็นงานด้าน animation ฝีมือคนไทย ที่หลายต่อหลายผลงานล้วนเคยไปคว้ารางวัลในระดับโลกมาแล้ว ซึ่งน้อยคนที่จะรู้ว่าผลงานที่เคยคว้ารางวัลระดับโลกหลายชิ้นมาจากสตูดิโอสัญชาติไทย The Monk Studios ที่วันนี้ผู้ก่อตั้ง คุณจั๊ก คุณสุภณวิชญ์ สมสมาน จะมาพูดคุยกับเราในประเด็นที่ว่า นวัตกรรมบันเทิงหรือแวดวง Entertainment Innovation เป็นอย่างไรบ้าง ในไทยเราเองจะมีทางไปต่อไหม? ใครที่อยากเข้ามาทำงานในวงการนี้ไม่ควรพลาด
ผมจำกัดความคำว่า “Innovation” ว่าเป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นบนโลก ส่วน Entertainment Innovation ก็คือนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีอะไรก็ได้ ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมบันเทิง จะเป็นด้าน art, movie, หรือ game ก็ได้ แต่สำหรับในเมืองไทยเรา ผมมองว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ Entertainment Innovation ที่เป็นเรื่องใหม่ แต่ Innovation ทุกสาขาคือเรื่องใหม่ในเมืองไทย เพราะในบ้านเราไม่ค่อยสนับสนุนกันสักเท่าไร ด้วยระบบ หรือโครงสร้างทางสังคมที่ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดและแสดงออกอะไรนอกกรอบ เราก็เลยไม่ค่อยได้เห็น Innovation อะไรใหม่ๆ เท่าไรนัก
ณ ตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นโอกาสที่ดีมากของเหล่า creator เพราะการเข้ามาของ streaming media ทำให้ผู้บริโภคอยากจะเสพคอนเทนต์อะไรก็ได้ เมื่อไรก็ได้ และคนดูของเราคือคนกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก ไม่มีข้อจำกัดเหมือนในยุคก่อนหน้าที่เราต้องเสพคอนเทนต์ผ่านช่องทางสื่อ broadcast อย่างเดียว creator เองก็ไม่ต้องง้อ broardcast แล้ว
แต่ถ้ากลับมามองในมุม creator ไทย โจทย์ที่ยากและต้องไปให้ถึงก็คือ เราจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เรามี จะความคิดหรือคอนเซ็ปต์เฉพาะตัวในแบบคนไทย เมื่อออกไปสู่สายตาชาวโลกเขาเสพแล้วเข้าใจ เขาตีความได้ มีความ unique แต่ในขณะเดียวกันคือต้อง universal ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ The Monk Studios ให้ความสำคัญ ยกตัวอย่าง Netflix ก็เป็น streaming platform ที่เรากำลังทำงานด้วยอยู่ ในอนาคตก็จะมีคอนเทนต์ของเราเข้าไปอยู่ในนั้น
วงการ Animation และ VFX เองก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้นเกิดขึ้นอยู่ตลอด อย่างเมื่อ 5 ปีก่อนก็มี VR, AR, AI และ Deep learning ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ creator สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หัวใจสำคัญของสายงานนี้สำหรับผม คือ Storytelling ต้องมาก่อน จะทำอย่างไรเราถึงจะเล่าเรื่องให้คนสนใจและอยากดูได้ ซึ่งสิ่งนี้ไม่เคยเปลี่ยน ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเอาเทคโนโลยีมาช่วยเล่าเรื่องได้อย่างไรมากกว่า ในฐานะ creator ไทย เราจะทำอย่างไรที่จะเอาเรื่องไทยๆ ความเป็นเอเชียมานำเสนอ ให้มีความเป็นสากลได้
Open mind คือคุณสมบัติที่คนทั้งสองฝั่งจำเป็นต้องมี เพราะงานสายนี้เป็นการทำงานร่วมกันและผลิตร่วมกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะข้ามสายงานกันไม่ได้ ลักษณะของงาน VFX มันเป็น problem solving เป็นงานแก้ปัญหา ผมจะมองคำว่า Programming เป็นเทคโนโลยีมากกว่า เทคโนโลยีที่นำเข้ามาใช้ไม่ได้มีแค่การเขียน code หน้าคอม แต่มันจะมี hardware, software, และอุปกรณ์ต่างๆ อีก คนที่ทำ Programming จะทำทุกอย่างให้เป็นจริงได้ ถ้ามีความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยี รู้ทันเทคโนโลยี ก็จะทำให้ประสานต่อทุกส่วนได้ง่ายขึ้น ทำงานให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก สำหรับ Artist อีกคุณสมบัติที่สำคัญและต้องมีเลยก็คือ จะต้องเป็นคนที่ช่างสังเกต มององค์ประกอบเป็นภาพได้ คิดเป็นภาพได้ และเข้าใจในศาสตร์ของหนัง เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการเล่าเรื่อง
ถ้าอยากจะเติบโตในสายงานนี้ เลิกคิดถึงเมืองไทยไปได้เลย งานของเราถ้าเจ๋งจริงๆ จะไปได้ไกลมาก ที่สำคัญคือต้องคิดว่าเราจะทำงานอย่างไรให้คนทั่วโลกสนใจ ข้อดีของคนไทยคือเรามีนิสัยอะลุ่มอล่วย ปรับตัวง่าย มี sense of humor ถ้าเราเอาคนไทยมาทำเรื่องตลก มันจะตลกมากเลย
ความร่วมมือกันระหว่าง ม. เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง และ ม. Carnegie Mellon ครั้งนี้ ผมมองว่าสิ่งที่ผู้เรียนจะได้แน่ๆ อย่างแรกเลยนั่นก็คือความรู้ที่เราได้เรียนจากคณาจารย์ หรือคนที่เป็นตัวจริง มีประสบการณ์คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้จริง ทั้งจากไทยและต่างประเทศ ถัดมาก็คือเรื่องของ connection ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตในสายงานมาก และสิ่งสุดท้ายคือเมื่อใดก็ตามที่เราเอาคนเก่งๆ มารวมกัน มันจะต้องมีงานดีๆ เกิดขึ้นเสมอ อันนี้คือสิ่งที่ผมเชื่อมาตลอด
สนใจสมัครเรียน คลิกเลย:
https://eic.cmkl.ac.th/
ผ่านไปแล้วกับ MSTCI Fall 2020, First Round Interview และนี่คือบรรยากาศการสัมภาษณ์นักศึกษาที่เป็นกันเองในแบบเรียนไป เล่นไป ทำงานไปเพียงแค่การสัมภาษณ์เข้าโครงการ นักศึกษาก็มีโอกาสได้ฟังไอเดียที่ถ่ายทอดผ่านประสบการณ์ ของผู้เชี่ยวชาญในโครงการ MSTCI กลับไปเป็นข้อคิด และแรงบันดาลใจ ได้แล้ว!
Read MoreThe dream to fly high and the dream to touch the sky have possibly come true as the previous historical exploration – Elon Musk's SpaceX trip around the moon. After that, the new inscribed man-made phenomenon in the world which is a new lunar space race flying the audiences into the moon with a ‘virtual reality’ occurred.
Read MoreIt’s been a while since Covid-19 pandemic has been spreading in our society, and it absolutely changes the way we are living life. Therefore, this situation makes it inconvenient and unwieldy for us all to travel while this pandemic is still going on. However, in this era, modern technology allows us to travel while we are sitting in our room with gadgets like tablets, mobile phones, or computers.
Read Moreมารู้จักกับ MSTCI ผ่านบทสัมภาษณ์จาก Industry Partners! — หลังจากเต็มอิ่มกับการเรียนภาคทฤษฎีในเทอมแรกแล้ว MSTCI จะพานักศึกษาทุกคนลงสนามจริงด้วยการทำ “Capstone Project” แก้ปัญหาให้อุตสาหกรรมจริง ร่วมกับองค์กรระดับประเทศเหล่านี้อย่างใกล้ชิด!
Read Moreหลักสูตรปริญญาโทสาขา Technology and Creative Innovation (MSTCI) เปิดให้ทุนแก่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจากสาขาต่าง ๆ ทั้งผู้ที่ยังเป็นนักศึกษาในปัจจุบัน และ Professional จากสาขาที่หลากหลาย เข้ามาเป็นนักเรียน EIC ใน Cohort Fall 2022 ที่จะถึงนี้ พร้อมมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้าง Entertainment Innovation Lab ไปพร้อมกับอาจารย์และนักวิจัยแนวหน้าของประเทศ!
More Scholarship Info